วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

20 ร้านกาแฟสไตล์เก๋ ๆ

สำหรับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่หรือแถบตัวอำเภอต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัดในปัจจุบันนั้น เนื่องมากจากจำนวนคนที่แออัด ทำให้พื้นที่เงียบและสงบมีจำนวนน้อย  เพื่อน ๆ หลายคนจึงมองหาสถานที่ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานในชีวิตประจำวัน อย่างร้านกาแฟ หรือคาเฟ่สไตล์เก๋ ๆ ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะนั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ จึงได้รวบรวมเอาร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แถมยังสามารถนั่งอ่านหนังสือชิล ๆ ได้ด้วยมาฝากกันส่วนจะมีร้านไหนโดนใจ สะดุดตาจนน่าไปลิ้มลองเมนูกาแฟหอมกรุ่นกับเมนูของหวานกันบ้าง ลองตามไปชมกันเลย
1. Too Fast Too Sleep

 


มาเริ่มต้นกันที่ร้านแรกนั่นก็คือ ร้านกาแฟใจกลางเมืองกรุงสุดชิล ที่ตอบโจทย์ในทุกคำถาม เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่เงียบสงบนั่งอ่านหนังสือ หรือคิดไอเดียบรรเจิดในการทำงาน แถมยังเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย ตอบโจทย์คนที่ต้องนอนดึกหรือตื่นขึ้นมาทำงานดึก ๆ อ่านหนังสือดึก ๆ ได้เป็นอย่างดี สำหรับลักษณะของร้านให้ความรู้สึกเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่สไตล์อังกฤษที่หลุดออกมาจากในหนัง เน้นการใช้โทนสีน้ำตาลสีไม้อ่อนและสีน้ำเงินให้ความรู้สึกสบาย ๆ อบอุ่นเหมือนนอนอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน รวมไปถึงโต๊ะ เก้าอี้ หรือจะเลือกนั่งเบาะที่พื้น นอนเล่นที่โซฟา ที่นี่ก็มีพร้อมบริการทุกอย่างเช่นกัน สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ เช่น กาแฟผสมนมช็อกโกแลต โรยหน้าด้วยผงช็อกโกแลต, กาแฟแบบมอคค่าใส่ช็อกโกแลต (ที่ให้ความก้ำกึ่งระหว่างกาแฟแบบลาเต้กับมอคค่า) และกระเจี๊ยบรูทเบียร์ ส่วนเมนูของหวานเป็นโฮมเมด ทำเอง คิดสูตรเอง อย่าง เครปเค้ก, เบเกอรี่, ช็อกโกแลตบราวนี่ เป็นต้น

           บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
           ที่อยู่ : 754 ถนนพระราม 4 ตรงข้ามจามจุรีสแควร์ กรุงเทพฯ
           โทรศัพท์ : 08 6300 9955
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Too Fast Too Sleep
                2. Aree Garden
โครงการ อารีย์การ์เด้น (Aree Garden) เป็นโครงการในย่านซอยอารีย์ ที่เป็นแหล่ง Hang out แห่งใหม่ของคนเมือง มีพื้นที่ขนาดกะทัดรัด 1 ไร่ ภายในโครงการเน้นไอเดียการตกแต่งและจัดวางแบบธรรมชาติ ด้วยการยกป่ามาไว้ในเมืองกรุงเลยก็ว่าได้ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้เป็นที่สำหรับพักผ่อนคลายของชาวกรุง สำหรับร้านกาแฟภายในโครงการก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น ชับบี้ช้างเบเกอรี่แอนด์กิ๊ฟช็อป (Chubby Chang's Bakery & Gift Shop) ร้านของคู่รักลูกครึ่งเยอรมันและอเมริกัน จัดเป็นมุมสำหรับทำอาหารและเบเกอรี ที่ทำกันสดๆ ในร้าน และยังมีมุมเล็ก ๆ สำหรับเด็กให้ระบายสีส่วนอีกมุมเป็นมุมกิ๊ฟช็อป พร้อมทั้งของไทยและต่างประเทศให้เลือก ร้านริซ่า ราโม่ (Risa Lamo) ร้านนี้มีโซนให้นั่งเล่นบริเวณชั้น 2 และบริเวณด้านหน้าใต้ร่มไม้, โพลก้าดอทคาเฟ่ (Polka dot cafe) ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของโครงการอารีย์การ์เด้น เน้นการตะแต่งร้านด้วยโทนสีขาวดำและโดดเด่นที่เคาน์เตอร์บาร์ลายจุดขายดำ

           บริการ : Free Wifi
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 06.30-22.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ เวลา 06.30-24.00 น.
           ที่อยู่ : ซอยอารีย์สัมพันธ์ 11 ตรงข้ามกระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ
           โทรศัพท์ : 0 2617 1599
           เว็บไซต์ : areegarden.com
3. Librarista

ร้านกาแฟกึ่งห้องสมุดหนึ่งเดียวในเชียงใหม่ที่ให้บริการทั้งกาแฟรสชาติอร่อย พร้อมด้วยของหวานอย่างเค้กและเบเกอรี่หลากหลายอย่าง โดยดัดแปลงบ้านให้มาเป็นร้านกาแฟสุดเก๋ ในบรรยากาศที่น่ารัก ภายในร้านแบ่งออกเป็น 4 โซน คือ โซนนอกร้าน สำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศของการนั่งจิบกาแฟนั่งใต้ร่มไม้เย็น ๆ รับลมสบาย ๆ โซนภายในร้านที่เน้นการตกแต่งร้านแบบโมเดิร์น โซนห้องประชุม เป็นห้องสำหรับให้นักเรียน วัยรุ่น รวมทั้งวัยทำงานได้มีสถานที่สำหรับติวหนังสือ และโซนห้องสมุด ที่ถือเป็นจุดเด่นของร้านกาแฟแห่งนี้ เพราะเป็นห้องสมุดขนาดย่อมที่เต็มไปด้วยหนังสือต่าง ๆ มากมาย แต่มีการจำกัดการใช้ห้องสมุดไว้ 2 ชั่วโมงต่อ 1 บิล เพราะทางร้านต้องการให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันอย่างทั่วถึง แต่ถ้าใครที่อยากยืมหนังสือกลับบ้านก็ได้เช่นกันเพราะทางร้านมีระเบียบการยืม-คืนหนังสือด้วย

          บริการ : Free Wifi
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.
          ที่อยู่ : ถนนนิมานเหมินทร์ ซอย 5 ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
          โทรศัพท์ : 0 5389 5678
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Librarista
4. The Third Place Club
Third Place Club ที่ตั้งขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า Mobile Office หรือสถานที่ที่รวมเอาบ้าน ที่ทำงาน และจุดนัดพบระหว่างเพื่อนไว้ในสถานที่แห่งเดียวกัน มีเครื่องดื่มและของว่างและมี อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงไว้บริการ คุณจะเพลิดเพลินและทำงานได้ตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังเอาใจคอกาแฟและคลับสำหรับคนรุ่นใหม่ที่รักในการใช้ชีวิตอิสระ ตัวร้านมีลักษณะทรงสูงแบบกล่องสี่เหลี่ยม ส่วนวัสดุที่ใช้เป็นส่วนใหญ่เป็นปูน, เหล็ก, ไม้ และกระจก ผสมผสานในสัดส่วนที่พอดีกัน โดยดีไซน์ร้านแบบโมเดิร์นบวกกับความทันสมัย ถือเป็นร้านกาแฟดีไซน์เท่ๆ เหมาะกับการพักผ่อนและการทำงาน พร้อมด้วยเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็น พร้อมด้วยขนมต่าง ๆ ให้บริการอีกด้วย

          บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น.
          ที่อยู่ : 137-137/1 ซอยทองหล่อ 10 อาคาร ชั้น 1 เดอะเทิร์ดเพลสแบงค็อก ถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
          โทรศัพท์ : 027147929
          เว็บไซต์ : thirdplacebangkok.com และ เฟซบุ๊ก The Third Place Bangkok

5. The Bookshop
The Bookshop Cafe เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์เล็ก ๆ โดดเด่นด้วยการตกแต่งที่ชวนให้นึกถึงหนังเรื่อง  Alice in Wonderland แต่ก็ให้อารมณ์ละม้ายเข้าไปอยู่ใน Hogwarts ในหนังเรืองแฮรี่พอตเตอร์ อยู่เหมือนกัน ซึ่งร้านจะมีบรรยากาศสบาย ๆ น่านั่งจิบเครื่องดื่ม ภายในร้านตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น ด้วยเฟอร์นิเจอร์แปลกตา เพดานร้านที่ตกแต่งด้วยหนังสือห้อยย้อยลงมาดูสวยงามไปอีกแบบ ส่วนโซนที่นั่งมีการจัดวางแบบผสมผสานระหว่างเก้าอี้ทรงสูง และโซฟาไว้ในจุดต่าง ๆ อย่างสวยงามส่วนเมนูอาหารของร้านเน้นประเภทอาหารยุโรป และอาหารสัญชาติไทย ๆ ให้บริการพร้อมเครื่องดื่มหลายชนิดอีกด้วย ส่วนเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตของร้านก็คือ กาแฟ, เครื่องดื่มค็อกเทล และไวน์ เป็นต้น

           บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน 
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-24.00 น.
           ที่อยู่ : G Floor แอชตัน คอนโดมิเนียม สุขุมวิทซอย 38 (BTS ทองหล่อ) กรุงเทพฯ
           โทรศัพท์ : 02 187 4949
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Bookshop


                6. Think Tank
ร้านกาแฟธรรมดา ที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้าน ที่เน้นให้เป็นเหมือนศูนย์รวมความรู้ พร้อมทั้งเป็นพื้นที่ อิสระสำหรับจัดกิจกรรม นิทรรศการ และยังเป็นศูนย์รวมโครงการต่าง ๆ เพื่อคืนกำไรให้แก่สังคมอีกด้วย เช่น การรับบริจาคหนังสือ, รับบริจาคฝาปิดกระป๋อง สำหรับทำขาเทียม เป็นต้น  แถมทางร้านยังมุ่งเน้นการต้อนรับ ทั้งคนทำงาน กลุ่มนักศึกษา ที่จะมาผ่อนคลายด้วยการนั่งจิบกาแฟ, อ่านหนังสือ, ทำงาน ได้อีกด้วย โดยภายในร้านแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน ได้แก่ โซน Out of the box สำหรับจัดนิทรรศการ หรืองานแสดงต่าง ๆ และโซนคาเฟ่ตรงกลาง สำหรับนั่งเล่นพูดคุย ทานอาหารอร่อย ๆ ซึ่งมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ โดดเด่นด้วยโซนห้องสมุด สำหรับนั่งอ่านหนังสือเงียบ ๆ อีกด้วยส่วน สำหรับเครื่องดื่ม ได้แก่ กาแฟสดทั้งร้อนและเย็น, DIY Fresh Yogurt, Blue Hawaii ทานคู่กับเมนูขนมหวาน เช่น Homemade Waffle, Apple Tart, Chocolate Fudge Cake เป็นต้น

           บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
           ที่อยู่ : 9 ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
           โทรศัพท์ : 08 6784 9384
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Think Tank (third place)
 7. Creative and Meeting Place

ร้านกาแฟขนาดใหญ่ ตัวร้านโดดเด่นเพราะตั้งอยู่ใจกลางห้างเมย่า ไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ CAMP ของจังหวัดเชียงใหม่  โดยทางร้านมีความตั้งใจในการเปิดร้านกาแฟในรูปแบบของห้องสมุด เพื่อใช้เป็นจุดนัดพบของนักสร้างสรรค์ ซึ่งตัวร้านมีความแตกต่างจากร้านอื่น ๆ ที่นอกจากความกว้างแล้ว ยังมีการใช้โทนสีตกแต่งให้มีความแตกต่างทั้งสีขาวและสีครีมให้ดูแล้วสบายตา มีการแบ่งพื้นที่ภายในร้านได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังเป็นร้านกาแฟที่สามารถรองรับผู้ที่เข้ามานั่งได้จำนวนมากอีกด้วย แถมที่นั่งเรียบง่ายด้วยเบาะรองนั่ง ที่จะวางอ่านหนังสือตามชั้นหรือจะนั่งจับกลุ่มอ่านหนังสือก็ทำได้ แต่ถ้าใครที่ต้องใช้เสียง เช่น การนัดพบปะเพื่อนฝูงหรือคุยงาน ทางร้านก็มีห้องสำหรับสังสรรค์เช่นกัน ส่วนเมนูแนะนำของร้านเป็นเครื่องดื่มทั้งแบบร้อนและเย็น พร้อมด้วยขนมหวานนานาชนิด รวมทั้งเมนูอาหารจานเดียวก็มีให้เลือกเช่นกัน

           บริการ : Free Wifi        
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
           ที่อยู่ : ถนนห้วยแก้ว (อยู่ในศูนย์การค้า MAYA ชั้น5 หน้าโรงหนัง SF) MAYA อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
           โทรศัพท์ : 0 5208 1555
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก maya.chiangmai
                8. ร้านหนังสือเฟื่องนคร

ร้านกาแฟที่เปิดให้บริการอย่างยาวนานหลายปี แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ของร้าน คือ "กาแฟดีและมีหนังสือขาย" สำหรับแนวคิดในการจัดตั้งร้านของเจ้าของนั้น มาจากความต้องการที่อยากจะสร้างร้านหนังสืออิสระ เหมือนกับร้านหนังสืออีกหลายจังหวัด ภายในร้านจึงมีประเภทหนังสือที่หลากหลายแนวไม่ซ้ำกับร้านทั่วไป ส่วนการตกแต่งภายในร้านจะออกแบบเรียบง่าย ด้วยชั้นหนังสือเรียงรายอยู่รอบร้าน ด้านหน้าร้านใช้กระจกบานใหญ่เพื่อรับแสงจากภายนอกร้านได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากเมนูเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟ และน้ำผลไม้ปั่นแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูเคียงคู่เครื่องดื่มให้บริการทั้งขนมหวานและ ขนมเค้กให้เลือกอีกมากมายอีกด้วย

          บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน 
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-19.30 และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.30 น.
          ที่อยู่ : ถนนมหาดไทย อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
          โทรศัพท์ : 08 8073 8867,
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Fueang Nakhon Books (ร้านหนังสือเฟื่องนคร)

9. Cafe Courtyard
ร้านกาแฟที่เน้นการออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดกว้าง รายล้อมรอบตัวร้านด้วยพื้นที่สวนสวยสีเขียว ให้ความรู้สึกสดชื่น เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับมานั่งชิลอ่านหนังสือ จิบกาแฟ หรือจะทำงานไปพลางจิบชาหอม ๆ ไป ภายในร้านแบ่งโซนที่นั่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนนอกร้าน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศสบาย ๆ มองวิวสวยรอบร้าน และอีกโซนสำหรับผู้ที่ชอบแอร์เย็นฉ่ำ นั่งทานกาแฟหอมกรุ่นคู่กับขนมหวาน สำหรับเมนูเครื่องดื่มที่พลาดไม่ได้ คือ ลาเต้เย็น, คาราเมลนมสด, เอสเพรสโซ่, คาปูชิโน่, มอคค่า, อเมริกาโน่, นมร้อน และขนมหวานอย่างบานอฟฟี่, ทีรามิสุชาเขียว และขนมปังปิ้ง เป็นต้น

          บริการ : Free WiFi
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการวันอังคาร-จันทร์ เวลา 09.00-20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
          ที่อยู่ : 478/11 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
          โทรศัพท์ : 09 1667 8180
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Cafe Courtyard
                10. ร้านหนังสือก็องดิด
ร้านกาแฟที่เน้นบรรยากาศเงียบสงบ ด้วยการตกแต่งที่เรียบง่ายในสไตล์โกดังเก่า มีเพดานสูงเป็นห้องโล่ง ซึ่งภายในร้านจะไม่มีการตกแต่งมากนัก แต่บริเวณผนังร้านก็ยังคงเต็มไปด้วยชั้นหนังสือทั้งใหม่และเก่าวางเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก สำหรับจุดเด่นของร้าน คือ มีการคัดสรรหนังสือที่เหมาะกับร้าน รวมทั้งมีการให้บริการแนะนำหนังสือที่สนใจสำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีบริการเครื่องดื่มและเมนูของหวานรสชาติเยี่ยมด้วย

          บริการ : Free WiFi        
          เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00-20.00 น.
          ที่อยู่ : 41/1 อาคาร โครงการ The Jam Factory ถนนเจริญนคร แขวงคลองสาน เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
          โทรศัพท์ : 0 2861 0967
          เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก CandideBooks
11. My Café the Library

ร้านอาหารในห้องสมุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์ โดยรวมทั้งสองอย่างเอาไว้ในร้านเดียวได้อย่างงตัว โดดเด่นด้วยหนังสือเก่าและใหม่ รวมทั้งหนังสือหายากว่า 200 เล่ม โดยร้านนี้เป็นร้านที่ต่อยอดมาจาก My Cafe ในโรงแรม My Hotel เน้นการตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์ The Simply Stylish แต่ร้านนี้ตกแต่งในสไตล์ผสมผสานระหว่างร้านอาหารในห้องสมุด โดยบริเวณโดยรอบของร้านจะตกแต่งด้วยชั้นหนังสือขนาดใหญ่ ซึ่งที่นี่แบ่งตัวร้านออกเป็น 2 ส่วน คือ ชั้นล่างและชั้นลอยที่เต็มไปด้วยหนังสือเช่นกัน แถมยังมีบริการรับซื้อ-ขาย-แลก-เปลี่ยน และรับซ่อมหนังสือเก่าอีกด้วย สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ กาแฟสด, เค้ก และน้ำผลไม้สมูทตี้ นอกจากนี้ ยังมีบริการเมนูอาหารจานเดียวให้เลือกมากมายเช่นกัน

        บริการ : Free WiFi
        เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
        ที่อยู่ : ชั้น 1 อาคารนวมินทร์ซิตี้อเวนิว ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯโทรศัพท์ : 0 2907 2220
        เว็บไซต์ : mycafethailand.com และ เฟซบุ๊ก mycafe thailand
12. Study Room Cafe

ร้านกาแฟสบาย ๆ ที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้าน ที่อยากมีร้านกาแฟน่านั่ง แอร์เย็น ๆ สบาย ๆ พร้อมทั้งมีเครื่องดื่มอร่อย ๆ ทำให้ร้าน Study Room Café จึงมีบรรยากาศสบาย ๆ เหมาะสำหรับนั่งพูดคุย หรือเป็นสถานที่เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานได้เป็นอย่างดี ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ เป็นบ้านไม้สีขาวดัดแปลงมาเป็นร้านกาแฟ โดยสามารถเลือกนั่งพักผ่อนได้ทั้งชั้นบน ชั้นล่าง และสนามหน้าบ้าน แถมยังมีห้องส่วนตัวในชื่อ "ห้องต้องประสงค์" ในการเช่าประชุมหรือติวหนังสือได้อีกด้วย รวมทั้งมีการ Work Shop ในหัวข้อและเทคนิคต่าง ๆ สำหรับผู้สนใจอีกด้วย สำหรับเมนูภายในร้านมีทั้งเมนู กาแฟ, Caramel Macchiato, Caramel Latte, Mocha และน้ำผลไม้ปั่น คู่กับของหวานอย่างเค้ก Honey Butter Toast และ Yummy Toast รวมทั้งมีเมนูอาหารจานเดียว สำหรับทานง่าย ๆ ไว้บริการในระหว่างนั่งพักผ่อนกับการอ่านหนังสือ หรือทำงานอีกด้วย

         บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.0 -23.00 น.
         ที่อยู่ : Study Room Cafe Free Education (สาขา 1) ชั้น 2 The Vue Bangkok ติดกับ the River Condo ปากซอยเจริญนคร 13 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 09 2267 0785 และ Study Room Cafe Free Education (สาขา 2) 643/14 ประชาอุทิศ 47 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 09 2267 0785
         เว็บไซต์ : studyroomcafe.com และ เฟซบุ๊ก Study Room Cafe
                13. ร้านสุนทรภู่



ร้านหนังสือขนาดกลางตั้งอยู่ภายในอำเภอแกลง จังหวัดระยอง ถือเป็นร้านหนังสือที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย มีที่นั่งเล็ก ๆ สำหรับนั่งอ่านก่อนตัดสินใจซื้ออีกด้วย ภายในร้านตกแต่งในโทนสีฟ้าตัดกับชั้นวางหนังสือสีน้ำตาล และกรอบรูปภาพต่าง ๆ รายล้อมร้านด้วยกระจกให้สามารถชมวิวโดยรอบของร้านได้ ส่วนเครื่องดื่มของร้านสั่งจากเคาน์เตอร์เล็ก ๆ บริเวณทางเข้าร้าน แต่พร้อมไปด้วยเมนูเครื่องดื่มและของหวานที่หลากหลายให้เลือกอีกด้วย

         บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน 
         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.
         ที่อยู่ : 38/1 ถนนโพธิ์ทอง เทศบาลเมืองแกลง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
         โทรศัพท์ : 08 6405 6502
         เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ร้านสุนทรภู่ ร้านหนังสือเล็กๆ ที่บ้านเกิด 1 อ.แกลง จ.ระยอง
                14. ร้านหนังสือบางหลวง

ที่นี่ถือเป็นร้านของศิลปินท้ายคลองบางหลวง เป็นร้านหนังสือที่ดัดแปลงมาจากบ้านไม้สองชั้นริมคลองบางหลวง ซึ่งเป็นสายน้ำแห่งวัฒนธรรม วิถีชีวิต รวมทั้งการท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยทางร้านภายในร้านเต็มไปด้วยชั้นหนังสือ นวนิยาย หลากหลายแนว ต่าง ๆ โดยให้ผู้ที่เข้าไปใช้บริการและเลือกอ่านหนังสือได้ตามความชอบ ซึ่งบริเวณชั้นสองของร้านจะมีการจัดแสดงเป็นแกลเลอรีรูปภาพต่าง ๆ ของเจ้าร้านอีกด้วย สำหรับเมนูเครื่องดื่มของร้าน ได้แก่ กาแฟสดร้อน-เย็น พร้อมด้วยเมนูเบเกอรี่หลายอย่างให้เลือกอีกด้วย

        บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน 
        เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการ วันจันทร์-อังคาร เวลา 10.00-18.00 น., วันพุธ-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น. และวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00 น.
        ที่อยู่ : 315 วัดทองศาลางาม ซอยเพชรเกษม 28 ถนนเพชรเกษม แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
        เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ร้านหนังสือบางหลวง-ร้านหนังสือเล็กๆ-ที่บ้านเกิด-3-ภาษีเจริญ-กรุงเทพฯ
15. ร้านหนังสือเชียงดาว
ร้านหนังสือที่สร้างขึ้นภายใต้แนวความคิดที่ว่า "ร้านหนังสือที่เป็นมากกว่าหนังสือ" เพราะที่นี่ออกแบบให้เหมาะสำหรับการพักผ่อน ด้วยการดัดแปลงมาจากบ้านหลังเก่าปรับปรุงและกลายเป็นร้านหนังสือดังเช่นในปัจจุบัน แถมหลายคนยังใช้เป็นจุดนัดพบ พูดคุยสนทนา เป็นจุดแวะพักสำหรับนักเดินทาง อีกทั้งยังเป็นแหล่งชุมนุมนักฝันเลยก็ว่าได้ ซึ่งที่นี่ได้รวบรวมเอาหนังสือดี ๆ จำนวนมากให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้ลองหยิบมาอ่านกัน นอกจากนี้ ยังมีบริการเครื่องดื่มอย่างกาแฟ, ชา และน้ำผลไม้ตามฤดูกาลต่าง ๆ แถมยังมีเมนูของหวานแสนอร่อยอย่างเครปมะม่วง, วนิลาซอส และโฮมเมดเบเกอรีไว้คอยบริการ

        บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน 
        เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.00-20.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
        ที่อยู่ : 190/4 หมู่ 4 บ้านวังจ๊อบ ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
        โทรศัพท์ : 08 1111 3693
        เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ร้านหนังสือเชียงดาว ร้านหนังสือเล็กๆ ที่บ้านเกิด 2 อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
                16. ฟิลาเดลเฟีย ร้านหนังสือในสวนดอกไม้

ถือเป็นร้านหนังสือในสวนดอกไม้ ที่เป็นที่รู้จักของเหล่านักอ่านในจังหวัดอุบลราชธานีเป็นอย่างดี เพราะเป็นร้านหนังสืออิสระเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด ซึ่งเจ้าของร้านก็เป็นนักเขียนและนักแปลหนังสือ ร้านนี้ก็เลยถูกออกแบบให้เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับนักเขียนและนักอ่านช่างฝันได้เป็นอย่างดี ในส่วนของตัวร้านออกแบบอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบที่โดดเด่นของตัวอาคารสีเหลือง พร้อมด้วยการตกแต่งบริเวณโดยรอบให้เป็นสวนดอกไม้สุดน่ารัก ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นร้านหนังสือ สำหรับนักจิบ กาแฟ, ชา หรือนม ส่วนชั้นบนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกจัดเป็นแกลเลอรีแสดงงานศิลปะและส่วนที่สองจัดเป็นห้องพัก สำหรับนักเดินทางที่ต้องการมาพักผ่อน

        บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
        เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.30 น.
        ที่อยู่ : กิโลเมตรที่ 12 ถนนวาริน-เดชอุดม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
        โทรศัพท์ : 08 7650 9120
        เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ฟิลาเดลเฟีย ร้านหนังสือในสวนดอกไม้
17. Into the Woods Cafe’

ร้านกาแฟที่ตกแต่งในสไตล์ Fairy Tales จนขึ้นได้รับสมญานามว่า "ร้านกาแฟแห่งเทพนิยาย" เลยก็ว่าได้ และมุมหนังสือชนิดต่าง ๆ เพื่อเพิ่มจิตนาการ ให้เหมือนอยู่ภายในเทพนิยาย เพราะคำว่า Into the Woods หมายถึงชื่อตัวละครจากนิยายของการ์ตูนที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ เช่น หนูน้อยหมอกแดง, ราพันเซล, แจ็คผู้ฆ่ายักษ์ และซินเดอเรลล่า เป็นต้น ทางร้านจึงนำคอนเซ็ปต์นิยายมาตกแต่งร้าน ภายในร้านโดดเด่นด้วยเสาต้นไม้ที่มีกิ่งก้านสาขางอกออกมา แถมบริเวณผนังร้านยังมีการเพ้นท์รูปป่า และตัวละครจากนิยายอีกด้วย สำหรับเมนูเครื่องดื่มของร้าน มีทั้งกาแฟทั้งร้อนและเย็น Roll Cakes, Coffee Jelly, Iced Into the Woods เป็นต้น รวมทั้งมีเมนูอาหาร และเบเกอรี่ ขนม เค้ก สำหรับเลือกทานคู่เมนูอาหารได้อีกด้วย

         บริการ : Free Wifi
         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันเวลา 09.00-21.00 น.
         ที่อยู่ : 191-193 ถนนพระปกเกล้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
         โทรศัพท์ : 0 5321 8101
         เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก intothewoodscafe
                18. House of Commons-Cafe & Space

ถือเป็นอีกหนึ่งที่ลงตัวสุด ๆ ระหว่างร้านกาแฟและร้านหนังสือ ที่ตกแต่งให้คล้ายพิพิธภัณฑ์ ภายใต้แนวความคิดที่ว่า "พูดคุย เปิดพื้นที่ จัดกิจกรรม สร้างจังหวะ การตกแต่งที่เปลี่ยนได้ไม่มีเบื่อ" รวมทั้งยังเป็นร้านที่ตอบสนองความต้องการได้หลายรูปแบบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบดู และชอบสร้างสรรค์ รวมทั้งเป็นเวทีแสดงความสามารถ โชว์เคสงาน พร้อมด้วยกิจกรรมอื่น ๆ ฉายภาพยนตร์, ละครเวที, เสวนา, ขับจักรยาน รวมทั้งยังรับจัดอบรมและอื่น ๆ แถมยังมีเมนูอาหาร เครื่องดื่ม และของหวานให้บริการอีกด้วย

         บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
         เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00-20.00 น.
         ที่อยู่ : ถนนเจริญนคร (อยู่ระหว่างเจริญนคร 20 กับ 22 ตรงข้ามปั๊มเชลล์ ห่างจาก BTS กรุงธนบุรี 700 เมตร) เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
         โทรศัพท์ : 08 2983 8099           
         เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก House of Commons - Cafe & Space
19. Montra Cafe and Gallery


ร้านกาแฟสุดเก๋ ๆ ตั้งอยู่ย่านถนนสีลมใจกลางธุรกิจเดินทางไปได้สะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ใกล้ทั้ง BTS และ MRT ภายในร้านตกแต่งในสไตล์เทพนิยายในโทนสีม่วง เหมาะสำหรับใช้เป็นจุดนัดพบเพื่อน ๆ ส่วนภายในร้านเน้นการตกแต่งด้วยโซฟาสีสันต่าง ๆ แต่ถ้าใครที่ชอบการถ่ายภาพที่นี่ก็มีจัดแกลเลอรีงานศิลป์ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชม สำหรับเมนูแนะนำของร้านส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดื่มประเภทกาแฟ ซึ่งเป็น Arabica 100% นำเข้าจากประเทศเอธิโอเปียรับรองได้ว่าอร่อยหอมกรุ่นติดจมูกแน่นอน

        บริการ : Free Wifi
        เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
        ที่อยู่ : 56 อาคารญาดา ชั้น 1 ติดธนาคารทหารไทย(สีลม) แขวงสุรวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพฯ
        โทรศัพท์ : 0 2652 4462
        เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Montra Cafe' & Gallery
                20. HUBBA 
และร้านสุดท้ายที่เราจะแนะนำ คือ HUBBA Thailand ซึ่งไม่ใช่ร้านกาแฟแต่เป็นสถานที่ทำงานรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า Coworking space เป็นการแชร์พื้นที่การทำงานร่วมกัน เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจของตนเอง หรือ Freelance ที่ต้องการทำงานในสถานที่ที่พร้อมและบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำงาน พบปะผู้คนและแรงกระตุ้นใหม่ ๆ มีค่าบริการทั้งแบบรายวัน 260 บาท/คน และรายเดือน 4,650 บาท/คน โดยฮับบาจะให้บริการในเรื่องของโต๊ะเก้าอี้ที่นั่งสบาย สัญญาณไฮสปีดอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์สำนักงาน (เครื่องถ่ายเอกสาร แฟกซ์ สแกน พริ้นท์เอกสาร) น้ำ ชา กาแฟ และขนมทานเล่น ที่สามารถบริการตัวเองได้ในบริเวณ Pantry ห้องประชุม และกิจกรรม เช่น Community event กิจกรรมภายในที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ของสมาชิกฮับบา, Meetup งานพบปะและแลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ ๆ ของคนในหลาย ๆ วงการ หลาย ๆ หัวข้อ และ workshop ที่สลับสับเปลี่ยนกันไปในหัวข้อที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี การตลาด การพัฒนาตนเอง การเสริมสร้างสร้างความรู้และทักษะใหม่ ๆ

        บริการ : Hi-speed Internet และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
        เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น.
        ที่อยู่ : ซอยเอกมัย 4 ถนนสุขุมวิท 63 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
        โทรศัพท์ : 0 2714 3388
        เว็บไซต์ : hubbathailand.com และ เฟซบุ๊ก hubbathailand

         เป็นอย่างไรบ้างกับร้านกาแฟสุดเจ๋งที่เรานำมาฝากกัน น่าจะเป็นตัวเลือกที่ลงตัวสุด ๆ สำหรับเพื่อนที่กำลังมาหาพื้นที่สำหรับนั่งจิบกาแฟในวันว่างไปกับการอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดี

ที่มา : http://travel.kapook.com/view85783.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น