สำหรับการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่หรือแถบตัวอำเภอต่าง
ๆ ของแต่ละจังหวัดในปัจจุบันนั้น เนื่องมากจากจำนวนคนที่แออัด
ทำให้พื้นที่เงียบและสงบมีจำนวนน้อย
เพื่อน ๆ หลายคนจึงมองหาสถานที่ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานในชีวิตประจำวัน
อย่างร้านกาแฟ หรือคาเฟ่สไตล์เก๋ ๆ ซึ่งเหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะนั่งทำงาน
นั่งอ่านหนังสือ จึงได้รวบรวมเอาร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในกรุงเทพฯ
และต่างจังหวัด แถมยังสามารถนั่งอ่านหนังสือชิล ๆ ได้ด้วยมาฝากกันส่วนจะมีร้านไหนโดนใจ
สะดุดตาจนน่าไปลิ้มลองเมนูกาแฟหอมกรุ่นกับเมนูของหวานกันบ้าง ลองตามไปชมกันเลย
1. Too Fast Too Sleep
มาเริ่มต้นกันที่ร้านแรกนั่นก็คือ
ร้านกาแฟใจกลางเมืองกรุงสุดชิล ที่ตอบโจทย์ในทุกคำถาม
เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่เงียบสงบนั่งอ่านหนังสือ
หรือคิดไอเดียบรรเจิดในการทำงาน แถมยังเปิดให้บริการตลอด 24
ชั่วโมงอีกด้วย ตอบโจทย์คนที่ต้องนอนดึกหรือตื่นขึ้นมาทำงานดึก ๆ อ่านหนังสือดึก ๆ
ได้เป็นอย่างดี
สำหรับลักษณะของร้านให้ความรู้สึกเหมือนห้องสมุดขนาดใหญ่สไตล์อังกฤษที่หลุดออกมาจากในหนัง
เน้นการใช้โทนสีน้ำตาลสีไม้อ่อนและสีน้ำเงินให้ความรู้สึกสบาย ๆ
อบอุ่นเหมือนนอนอ่านหนังสืออยู่ที่บ้าน รวมไปถึงโต๊ะ เก้าอี้ หรือจะเลือกนั่งเบาะที่พื้น
นอนเล่นที่โซฟา ที่นี่ก็มีพร้อมบริการทุกอย่างเช่นกัน สำหรับเมนูแนะนำของร้าน
ได้แก่ เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ เช่น กาแฟผสมนมช็อกโกแลต โรยหน้าด้วยผงช็อกโกแลต,
กาแฟแบบมอคค่าใส่ช็อกโกแลต
(ที่ให้ความก้ำกึ่งระหว่างกาแฟแบบลาเต้กับมอคค่า) และกระเจี๊ยบรูทเบียร์
ส่วนเมนูของหวานเป็นโฮมเมด ทำเอง คิดสูตรเอง อย่าง เครปเค้ก, เบเกอรี่, ช็อกโกแลตบราวนี่ เป็นต้น
บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
ที่อยู่ : 754 ถนนพระราม 4 ตรงข้ามจามจุรีสแควร์ กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 08 6300 9955
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Too Fast Too Sleep
2.
Aree Garden
โครงการ อารีย์การ์เด้น (Aree Garden) เป็นโครงการในย่านซอยอารีย์
ที่เป็นแหล่ง Hang out แห่งใหม่ของคนเมือง
มีพื้นที่ขนาดกะทัดรัด 1 ไร่
ภายในโครงการเน้นไอเดียการตกแต่งและจัดวางแบบธรรมชาติ
ด้วยการยกป่ามาไว้ในเมืองกรุงเลยก็ว่าได้ ล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่
เพื่อให้เป็นที่สำหรับพักผ่อนคลายของชาวกรุง
สำหรับร้านกาแฟภายในโครงการก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น
ชับบี้ช้างเบเกอรี่แอนด์กิ๊ฟช็อป (Chubby Chang's Bakery & Gift Shop) ร้านของคู่รักลูกครึ่งเยอรมันและอเมริกัน
จัดเป็นมุมสำหรับทำอาหารและเบเกอรี ที่ทำกันสดๆ ในร้าน และยังมีมุมเล็ก ๆ
สำหรับเด็กให้ระบายสีส่วนอีกมุมเป็นมุมกิ๊ฟช็อป
พร้อมทั้งของไทยและต่างประเทศให้เลือก ร้านริซ่า ราโม่ (Risa Lamo) ร้านนี้มีโซนให้นั่งเล่นบริเวณชั้น 2
และบริเวณด้านหน้าใต้ร่มไม้, โพลก้าดอทคาเฟ่ (Polka
dot cafe) ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2
ของโครงการอารีย์การ์เด้น เน้นการตะแต่งร้านด้วยโทนสีขาวดำและโดดเด่นที่เคาน์เตอร์บาร์ลายจุดขายดำ
บริการ : Free Wifi
เวลาเปิด-ปิด :
เปิดบริการวันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 06.30-22.00 น. และวันศุกร์-เสาร์ เวลา 06.30-24.00 น.
ที่อยู่ : ซอยอารีย์สัมพันธ์ 11 ตรงข้ามกระทรวงการคลัง
กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 0 2617 1599
เว็บไซต์ : areegarden.com
3. Librarista
ร้านกาแฟกึ่งห้องสมุดหนึ่งเดียวในเชียงใหม่ที่ให้บริการทั้งกาแฟรสชาติอร่อย
พร้อมด้วยของหวานอย่างเค้กและเบเกอรี่หลากหลายอย่าง โดยดัดแปลงบ้านให้มาเป็นร้านกาแฟสุดเก๋
ในบรรยากาศที่น่ารัก ภายในร้านแบ่งออกเป็น 4 โซน คือ โซนนอกร้าน
สำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศของการนั่งจิบกาแฟนั่งใต้ร่มไม้เย็น ๆ รับลมสบาย ๆ
โซนภายในร้านที่เน้นการตกแต่งร้านแบบโมเดิร์น โซนห้องประชุม
เป็นห้องสำหรับให้นักเรียน วัยรุ่น รวมทั้งวัยทำงานได้มีสถานที่สำหรับติวหนังสือ
และโซนห้องสมุด ที่ถือเป็นจุดเด่นของร้านกาแฟแห่งนี้
เพราะเป็นห้องสมุดขนาดย่อมที่เต็มไปด้วยหนังสือต่าง ๆ มากมาย
แต่มีการจำกัดการใช้ห้องสมุดไว้ 2 ชั่วโมงต่อ 1 บิล เพราะทางร้านต้องการให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการกันอย่างทั่วถึง แต่ถ้าใครที่อยากยืมหนังสือกลับบ้านก็ได้เช่นกันเพราะทางร้านมีระเบียบการยืม-คืนหนังสือด้วย
บริการ : Free Wifi
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.
ที่อยู่ : ถนนนิมานเหมินทร์ ซอย 5 ตำบลสุเทพ
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 0 5389 5678
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Librarista
4. The Third
Place Club
Third Place Club ที่ตั้งขึ้นด้วยคอนเซ็ปต์ที่ว่า
Mobile Office หรือสถานที่ที่รวมเอาบ้าน ที่ทำงาน
และจุดนัดพบระหว่างเพื่อนไว้ในสถานที่แห่งเดียวกัน มีเครื่องดื่มและของว่างและมี
อินเทอร์เน็ต ความเร็วสูงไว้บริการ คุณจะเพลิดเพลินและทำงานได้ตลอดทั้งวัน
อีกทั้งยังเอาใจคอกาแฟและคลับสำหรับคนรุ่นใหม่ที่รักในการใช้ชีวิตอิสระ
ตัวร้านมีลักษณะทรงสูงแบบกล่องสี่เหลี่ยม ส่วนวัสดุที่ใช้เป็นส่วนใหญ่เป็นปูน,
เหล็ก, ไม้ และกระจก
ผสมผสานในสัดส่วนที่พอดีกัน โดยดีไซน์ร้านแบบโมเดิร์นบวกกับความทันสมัย
ถือเป็นร้านกาแฟดีไซน์เท่ๆ เหมาะกับการพักผ่อนและการทำงาน
พร้อมด้วยเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็น พร้อมด้วยขนมต่าง ๆ ให้บริการอีกด้วย
บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น.
ที่อยู่ : 137-137/1
ซอยทองหล่อ 10 อาคาร ชั้น 1
เดอะเทิร์ดเพลสแบงค็อก ถนนสุขุมวิท 63 (เอกมัย)
แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 027147929
เว็บไซต์ : thirdplacebangkok.com และ เฟซบุ๊ก The Third Place Bangkok
5. The Bookshop
The Bookshop Cafe เป็นร้านอาหารกึ่งบาร์เล็ก
ๆ โดดเด่นด้วยการตกแต่งที่ชวนให้นึกถึงหนังเรื่อง
Alice in Wonderland แต่ก็ให้อารมณ์ละม้ายเข้าไปอยู่ใน
Hogwarts ในหนังเรืองแฮรี่พอตเตอร์ อยู่เหมือนกัน ซึ่งร้านจะมีบรรยากาศสบาย
ๆ น่านั่งจิบเครื่องดื่ม ภายในร้านตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น ด้วยเฟอร์นิเจอร์แปลกตา
เพดานร้านที่ตกแต่งด้วยหนังสือห้อยย้อยลงมาดูสวยงามไปอีกแบบ
ส่วนโซนที่นั่งมีการจัดวางแบบผสมผสานระหว่างเก้าอี้ทรงสูง และโซฟาไว้ในจุดต่าง ๆ
อย่างสวยงามส่วนเมนูอาหารของร้านเน้นประเภทอาหารยุโรป และอาหารสัญชาติไทย ๆ
ให้บริการพร้อมเครื่องดื่มหลายชนิดอีกด้วย ส่วนเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตของร้านก็คือ
กาแฟ, เครื่องดื่มค็อกเทล และไวน์ เป็นต้น
บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา
11.00-24.00 น.
ที่อยู่ : G Floor แอชตัน
คอนโดมิเนียม สุขุมวิทซอย 38 (BTS ทองหล่อ) กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 02 187 4949
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก The Bookshop
6.
Think Tank
ร้านกาแฟธรรมดา
ที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้าน ที่เน้นให้เป็นเหมือนศูนย์รวมความรู้
พร้อมทั้งเป็นพื้นที่ อิสระสำหรับจัดกิจกรรม นิทรรศการ
และยังเป็นศูนย์รวมโครงการต่าง ๆ เพื่อคืนกำไรให้แก่สังคมอีกด้วย เช่น
การรับบริจาคหนังสือ,
รับบริจาคฝาปิดกระป๋อง สำหรับทำขาเทียม เป็นต้น แถมทางร้านยังมุ่งเน้นการต้อนรับ ทั้งคนทำงาน
กลุ่มนักศึกษา ที่จะมาผ่อนคลายด้วยการนั่งจิบกาแฟ, อ่านหนังสือ,
ทำงาน ได้อีกด้วย โดยภายในร้านแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน
ได้แก่ โซน Out of the box สำหรับจัดนิทรรศการ
หรืองานแสดงต่าง ๆ และโซนคาเฟ่ตรงกลาง สำหรับนั่งเล่นพูดคุย ทานอาหารอร่อย ๆ
ซึ่งมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ โดดเด่นด้วยโซนห้องสมุด สำหรับนั่งอ่านหนังสือเงียบ
ๆ อีกด้วยส่วน สำหรับเครื่องดื่ม ได้แก่ กาแฟสดทั้งร้อนและเย็น, DIY Fresh
Yogurt, Blue Hawaii ทานคู่กับเมนูขนมหวาน เช่น Homemade
Waffle, Apple Tart, Chocolate Fudge Cake เป็นต้น
บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ที่อยู่ : 9
ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 08 6784 9384
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Think Tank (third place)
7. Creative and Meeting Place
ร้านกาแฟขนาดใหญ่
ตัวร้านโดดเด่นเพราะตั้งอยู่ใจกลางห้างเมย่า ไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้ง เซ็นเตอร์ CAMP ของจังหวัดเชียงใหม่
โดยทางร้านมีความตั้งใจในการเปิดร้านกาแฟในรูปแบบของห้องสมุด
เพื่อใช้เป็นจุดนัดพบของนักสร้างสรรค์ ซึ่งตัวร้านมีความแตกต่างจากร้านอื่น ๆ
ที่นอกจากความกว้างแล้ว
ยังมีการใช้โทนสีตกแต่งให้มีความแตกต่างทั้งสีขาวและสีครีมให้ดูแล้วสบายตา
มีการแบ่งพื้นที่ภายในร้านได้อย่างเหมาะสม
อีกทั้งยังเป็นร้านกาแฟที่สามารถรองรับผู้ที่เข้ามานั่งได้จำนวนมากอีกด้วย
แถมที่นั่งเรียบง่ายด้วยเบาะรองนั่ง
ที่จะวางอ่านหนังสือตามชั้นหรือจะนั่งจับกลุ่มอ่านหนังสือก็ทำได้
แต่ถ้าใครที่ต้องใช้เสียง เช่น การนัดพบปะเพื่อนฝูงหรือคุยงาน
ทางร้านก็มีห้องสำหรับสังสรรค์เช่นกัน
ส่วนเมนูแนะนำของร้านเป็นเครื่องดื่มทั้งแบบร้อนและเย็น พร้อมด้วยขนมหวานนานาชนิด
รวมทั้งเมนูอาหารจานเดียวก็มีให้เลือกเช่นกัน
บริการ : Free Wifi
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง
ที่อยู่ : ถนนห้วยแก้ว
(อยู่ในศูนย์การค้า MAYA
ชั้น5 หน้าโรงหนัง SF) MAYA อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 0 5208 1555
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก maya.chiangmai
8.
ร้านหนังสือเฟื่องนคร
ร้านกาแฟที่เปิดให้บริการอย่างยาวนานหลายปี
แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ของร้าน คือ "กาแฟดีและมีหนังสือขาย"
สำหรับแนวคิดในการจัดตั้งร้านของเจ้าของนั้น
มาจากความต้องการที่อยากจะสร้างร้านหนังสืออิสระ
เหมือนกับร้านหนังสืออีกหลายจังหวัด
ภายในร้านจึงมีประเภทหนังสือที่หลากหลายแนวไม่ซ้ำกับร้านทั่วไป
ส่วนการตกแต่งภายในร้านจะออกแบบเรียบง่าย ด้วยชั้นหนังสือเรียงรายอยู่รอบร้าน
ด้านหน้าร้านใช้กระจกบานใหญ่เพื่อรับแสงจากภายนอกร้านได้อย่างเต็มที่
ซึ่งนอกจากเมนูเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟ และน้ำผลไม้ปั่นแล้ว
ที่นี่ยังมีเมนูเคียงคู่เครื่องดื่มให้บริการทั้งขนมหวานและ
ขนมเค้กให้เลือกอีกมากมายอีกด้วย
บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันจันทร์-ศุกร์
เวลา 08.00-19.30 และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-19.30 น.
ที่อยู่ : ถนนมหาดไทย อำเภอเมือง
จังหวัดนครราชสีมา
โทรศัพท์ : 08 8073 8867,
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Fueang Nakhon Books (ร้านหนังสือเฟื่องนคร)
9. Cafe Courtyard
ร้านกาแฟที่เน้นการออกแบบให้มีพื้นที่ขนาดกว้าง
รายล้อมรอบตัวร้านด้วยพื้นที่สวนสวยสีเขียว ให้ความรู้สึกสดชื่น
เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับมานั่งชิลอ่านหนังสือ จิบกาแฟ หรือจะทำงานไปพลางจิบชาหอม
ๆ ไป ภายในร้านแบ่งโซนที่นั่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนนอกร้าน
เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศสบาย ๆ มองวิวสวยรอบร้าน
และอีกโซนสำหรับผู้ที่ชอบแอร์เย็นฉ่ำ นั่งทานกาแฟหอมกรุ่นคู่กับขนมหวาน
สำหรับเมนูเครื่องดื่มที่พลาดไม่ได้ คือ ลาเต้เย็น, คาราเมลนมสด,
เอสเพรสโซ่, คาปูชิโน่, มอคค่า,
อเมริกาโน่, นมร้อน และขนมหวานอย่างบานอฟฟี่,
ทีรามิสุชาเขียว และขนมปังปิ้ง เป็นต้น
บริการ : Free WiFi
เวลาเปิด-ปิด :
เปิดให้บริการวันอังคาร-จันทร์ เวลา 09.00-20.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
ที่อยู่ : 478/11
ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
โทรศัพท์ : 09 1667 8180
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Cafe Courtyard
10.
ร้านหนังสือก็องดิด
ร้านกาแฟที่เน้นบรรยากาศเงียบสงบ
ด้วยการตกแต่งที่เรียบง่ายในสไตล์โกดังเก่า มีเพดานสูงเป็นห้องโล่ง
ซึ่งภายในร้านจะไม่มีการตกแต่งมากนัก
แต่บริเวณผนังร้านก็ยังคงเต็มไปด้วยชั้นหนังสือทั้งใหม่และเก่าวางเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก
สำหรับจุดเด่นของร้าน คือ มีการคัดสรรหนังสือที่เหมาะกับร้าน
รวมทั้งมีการให้บริการแนะนำหนังสือที่สนใจสำหรับผู้ที่เข้ามาใช้บริการอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบริการเครื่องดื่มและเมนูของหวานรสชาติเยี่ยมด้วย
บริการ : Free WiFi
เวลาเปิด-ปิด :
เปิดบริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00-20.00 น.
ที่อยู่ : 41/1 อาคาร
โครงการ The Jam Factory ถนนเจริญนคร แขวงคลองสาน เขตคลองสาน
กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 0 2861 0967
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก CandideBooks
11. My Café the Library
ร้านอาหารในห้องสมุดบนถนนเกษตร-นวมินทร์
โดยรวมทั้งสองอย่างเอาไว้ในร้านเดียวได้อย่างงตัว โดดเด่นด้วยหนังสือเก่าและใหม่
รวมทั้งหนังสือหายากว่า 200 เล่ม โดยร้านนี้เป็นร้านที่ต่อยอดมาจาก My Cafe ในโรงแรม
My Hotel เน้นการตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์ The Simply
Stylish แต่ร้านนี้ตกแต่งในสไตล์ผสมผสานระหว่างร้านอาหารในห้องสมุด
โดยบริเวณโดยรอบของร้านจะตกแต่งด้วยชั้นหนังสือขนาดใหญ่
ซึ่งที่นี่แบ่งตัวร้านออกเป็น 2 ส่วน คือ
ชั้นล่างและชั้นลอยที่เต็มไปด้วยหนังสือเช่นกัน
แถมยังมีบริการรับซื้อ-ขาย-แลก-เปลี่ยน และรับซ่อมหนังสือเก่าอีกด้วย
สำหรับเมนูแนะนำของร้าน ได้แก่ กาแฟสด, เค้ก
และน้ำผลไม้สมูทตี้ นอกจากนี้ ยังมีบริการเมนูอาหารจานเดียวให้เลือกมากมายเช่นกัน
บริการ : Free WiFi
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่อยู่ : ชั้น 1
อาคารนวมินทร์ซิตี้อเวนิว ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว
กรุงเทพฯโทรศัพท์ : 0 2907 2220
เว็บไซต์ : mycafethailand.com และ เฟซบุ๊ก mycafe thailand
12. Study Room Cafe
ร้านกาแฟสบาย ๆ
ที่เกิดจากความตั้งใจของเจ้าของร้าน ที่อยากมีร้านกาแฟน่านั่ง แอร์เย็น ๆ สบาย ๆ
พร้อมทั้งมีเครื่องดื่มอร่อย ๆ ทำให้ร้าน Study Room Café จึงมีบรรยากาศสบาย ๆ
เหมาะสำหรับนั่งพูดคุย หรือเป็นสถานที่เปลี่ยนบรรยากาศการทำงานได้เป็นอย่างดี
ภายในร้านตกแต่งด้วยสไตล์วินเทจ เป็นบ้านไม้สีขาวดัดแปลงมาเป็นร้านกาแฟ
โดยสามารถเลือกนั่งพักผ่อนได้ทั้งชั้นบน ชั้นล่าง และสนามหน้าบ้าน
แถมยังมีห้องส่วนตัวในชื่อ "ห้องต้องประสงค์"
ในการเช่าประชุมหรือติวหนังสือได้อีกด้วย รวมทั้งมีการ Work Shop ในหัวข้อและเทคนิคต่าง ๆ สำหรับผู้สนใจอีกด้วย
สำหรับเมนูภายในร้านมีทั้งเมนู กาแฟ, Caramel Macchiato, Caramel Latte,
Mocha และน้ำผลไม้ปั่น คู่กับของหวานอย่างเค้ก Honey Butter
Toast และ Yummy Toast รวมทั้งมีเมนูอาหารจานเดียว
สำหรับทานง่าย ๆ ไว้บริการในระหว่างนั่งพักผ่อนกับการอ่านหนังสือ หรือทำงานอีกด้วย
บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.0 -23.00 น.
ที่อยู่ : Study Room Cafe Free
Education (สาขา 1) ชั้น 2 The Vue
Bangkok ติดกับ the River Condo ปากซอยเจริญนคร
13 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 09 2267 0785 และ
Study Room Cafe Free Education (สาขา 2) 643/14 ประชาอุทิศ 47 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ
กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 09 2267 0785
เว็บไซต์ : studyroomcafe.com และ เฟซบุ๊ก Study Room Cafe
13.
ร้านสุนทรภู่
ร้านหนังสือขนาดกลางตั้งอยู่ภายในอำเภอแกลง
จังหวัดระยอง ถือเป็นร้านหนังสือที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย มีที่นั่งเล็ก ๆ สำหรับนั่งอ่านก่อนตัดสินใจซื้ออีกด้วย
ภายในร้านตกแต่งในโทนสีฟ้าตัดกับชั้นวางหนังสือสีน้ำตาล และกรอบรูปภาพต่าง ๆ
รายล้อมร้านด้วยกระจกให้สามารถชมวิวโดยรอบของร้านได้
ส่วนเครื่องดื่มของร้านสั่งจากเคาน์เตอร์เล็ก ๆ บริเวณทางเข้าร้าน
แต่พร้อมไปด้วยเมนูเครื่องดื่มและของหวานที่หลากหลายให้เลือกอีกด้วย
บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.
ที่อยู่ : 38/1
ถนนโพธิ์ทอง เทศบาลเมืองแกลง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
โทรศัพท์ : 08 6405 6502
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ร้านสุนทรภู่
ร้านหนังสือเล็กๆ ที่บ้านเกิด 1 อ.แกลง จ.ระยอง
14.
ร้านหนังสือบางหลวง
ที่นี่ถือเป็นร้านของศิลปินท้ายคลองบางหลวง
เป็นร้านหนังสือที่ดัดแปลงมาจากบ้านไม้สองชั้นริมคลองบางหลวง
ซึ่งเป็นสายน้ำแห่งวัฒนธรรม วิถีชีวิต รวมทั้งการท่องเที่ยวต่าง ๆ
โดยทางร้านภายในร้านเต็มไปด้วยชั้นหนังสือ นวนิยาย หลากหลายแนว ต่าง ๆ
โดยให้ผู้ที่เข้าไปใช้บริการและเลือกอ่านหนังสือได้ตามความชอบ
ซึ่งบริเวณชั้นสองของร้านจะมีการจัดแสดงเป็นแกลเลอรีรูปภาพต่าง ๆ
ของเจ้าร้านอีกด้วย สำหรับเมนูเครื่องดื่มของร้าน ได้แก่ กาแฟสดร้อน-เย็น
พร้อมด้วยเมนูเบเกอรี่หลายอย่างให้เลือกอีกด้วย
บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการ
วันจันทร์-อังคาร เวลา 10.00-18.00 น., วันพุธ-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น. และวันเสาร์อาทิตย์ เวลา 09.00-19.00 น.
ที่อยู่ : 315 วัดทองศาลางาม ซอยเพชรเกษม 28 ถนนเพชรเกษม แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก
ร้านหนังสือบางหลวง-ร้านหนังสือเล็กๆ-ที่บ้านเกิด-3-ภาษีเจริญ-กรุงเทพฯ
15. ร้านหนังสือเชียงดาว
ร้านหนังสือที่สร้างขึ้นภายใต้แนวความคิดที่ว่า
"ร้านหนังสือที่เป็นมากกว่าหนังสือ"
เพราะที่นี่ออกแบบให้เหมาะสำหรับการพักผ่อน
ด้วยการดัดแปลงมาจากบ้านหลังเก่าปรับปรุงและกลายเป็นร้านหนังสือดังเช่นในปัจจุบัน
แถมหลายคนยังใช้เป็นจุดนัดพบ พูดคุยสนทนา เป็นจุดแวะพักสำหรับนักเดินทาง อีกทั้งยังเป็นแหล่งชุมนุมนักฝันเลยก็ว่าได้
ซึ่งที่นี่ได้รวบรวมเอาหนังสือดี ๆ
จำนวนมากให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการได้ลองหยิบมาอ่านกัน นอกจากนี้
ยังมีบริการเครื่องดื่มอย่างกาแฟ, ชา และน้ำผลไม้ตามฤดูกาลต่าง ๆ
แถมยังมีเมนูของหวานแสนอร่อยอย่างเครปมะม่วง, วนิลาซอส
และโฮมเมดเบเกอรีไว้คอยบริการ
บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา
10.00-20.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)
ที่อยู่ : 190/4 หมู่ 4 บ้านวังจ๊อบ ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
โทรศัพท์ : 08 1111 3693
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ร้านหนังสือเชียงดาว
ร้านหนังสือเล็กๆ ที่บ้านเกิด 2 อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
16.
ฟิลาเดลเฟีย ร้านหนังสือในสวนดอกไม้
ถือเป็นร้านหนังสือในสวนดอกไม้
ที่เป็นที่รู้จักของเหล่านักอ่านในจังหวัดอุบลราชธานีเป็นอย่างดี
เพราะเป็นร้านหนังสืออิสระเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในต่างจังหวัด
ซึ่งเจ้าของร้านก็เป็นนักเขียนและนักแปลหนังสือ
ร้านนี้ก็เลยถูกออกแบบให้เป็นสถานที่พักผ่อนสำหรับนักเขียนและนักอ่านช่างฝันได้เป็นอย่างดี
ในส่วนของตัวร้านออกแบบอย่างสวยงามด้วยสถาปัตยกรรมการออกแบบที่โดดเด่นของตัวอาคารสีเหลือง
พร้อมด้วยการตกแต่งบริเวณโดยรอบให้เป็นสวนดอกไม้สุดน่ารัก ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น
ชั้นแรกเป็นร้านหนังสือ สำหรับนักจิบ กาแฟ, ชา หรือนม
ส่วนชั้นบนแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนแรกจัดเป็นแกลเลอรีแสดงงานศิลปะและส่วนที่สองจัดเป็นห้องพัก
สำหรับนักเดินทางที่ต้องการมาพักผ่อน
บริการ : สอบถามโดยตรงจากร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.30 น.
ที่อยู่ : กิโลเมตรที่ 12
ถนนวาริน-เดชอุดม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
โทรศัพท์ : 08 7650 9120
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก ฟิลาเดลเฟีย
ร้านหนังสือในสวนดอกไม้
ร้านกาแฟที่ตกแต่งในสไตล์ Fairy Tales จนขึ้นได้รับสมญานามว่า
"ร้านกาแฟแห่งเทพนิยาย" เลยก็ว่าได้ และมุมหนังสือชนิดต่าง ๆ
เพื่อเพิ่มจิตนาการ ให้เหมือนอยู่ภายในเทพนิยาย เพราะคำว่า Into the Woods หมายถึงชื่อตัวละครจากนิยายของการ์ตูนที่เป็นที่ชื่นชอบของเด็ก ๆ เช่น
หนูน้อยหมอกแดง, ราพันเซล, แจ็คผู้ฆ่ายักษ์
และซินเดอเรลล่า เป็นต้น ทางร้านจึงนำคอนเซ็ปต์นิยายมาตกแต่งร้าน
ภายในร้านโดดเด่นด้วยเสาต้นไม้ที่มีกิ่งก้านสาขางอกออกมา
แถมบริเวณผนังร้านยังมีการเพ้นท์รูปป่า และตัวละครจากนิยายอีกด้วย
สำหรับเมนูเครื่องดื่มของร้าน มีทั้งกาแฟทั้งร้อนและเย็น Roll Cakes,
Coffee Jelly, Iced Into the Woods เป็นต้น รวมทั้งมีเมนูอาหาร
และเบเกอรี่ ขนม เค้ก สำหรับเลือกทานคู่เมนูอาหารได้อีกด้วย
บริการ : Free Wifi
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวันเวลา 09.00-21.00 น.
ที่อยู่ : 191-193
ถนนพระปกเกล้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่
โทรศัพท์ : 0 5321 8101
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก intothewoodscafe
18.
House of Commons-Cafe & Space
ถือเป็นอีกหนึ่งที่ลงตัวสุด ๆ
ระหว่างร้านกาแฟและร้านหนังสือ ที่ตกแต่งให้คล้ายพิพิธภัณฑ์
ภายใต้แนวความคิดที่ว่า "พูดคุย เปิดพื้นที่ จัดกิจกรรม สร้างจังหวะ
การตกแต่งที่เปลี่ยนได้ไม่มีเบื่อ"
รวมทั้งยังเป็นร้านที่ตอบสนองความต้องการได้หลายรูปแบบ เหมาะสำหรับคนที่ชอบดู
และชอบสร้างสรรค์ รวมทั้งเป็นเวทีแสดงความสามารถ โชว์เคสงาน พร้อมด้วยกิจกรรมอื่น
ๆ ฉายภาพยนตร์, ละครเวที, เสวนา, ขับจักรยาน
รวมทั้งยังรับจัดอบรมและอื่น ๆ แถมยังมีเมนูอาหาร เครื่องดื่ม
และของหวานให้บริการอีกด้วย
บริการ : Free Wifi และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
เวลาเปิด-ปิด :
เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 08.00-20.00 น.
ที่อยู่ : ถนนเจริญนคร
(อยู่ระหว่างเจริญนคร 20 กับ 22 ตรงข้ามปั๊มเชลล์ ห่างจาก BTS กรุงธนบุรี 700 เมตร) เขตคลองสาน กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 08 2983 8099
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก House of Commons - Cafe
& Space
19. Montra Cafe and Gallery
ร้านกาแฟสุดเก๋ ๆ
ตั้งอยู่ย่านถนนสีลมใจกลางธุรกิจเดินทางไปได้สะดวกสบาย เพราะตั้งอยู่ใกล้ทั้ง BTS และ MRT
ภายในร้านตกแต่งในสไตล์เทพนิยายในโทนสีม่วง เหมาะสำหรับใช้เป็นจุดนัดพบเพื่อน
ๆ ส่วนภายในร้านเน้นการตกแต่งด้วยโซฟาสีสันต่าง ๆ
แต่ถ้าใครที่ชอบการถ่ายภาพที่นี่ก็มีจัดแกลเลอรีงานศิลป์ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชม
สำหรับเมนูแนะนำของร้านส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดื่มประเภทกาแฟ ซึ่งเป็น Arabica
100% นำเข้าจากประเทศเอธิโอเปียรับรองได้ว่าอร่อยหอมกรุ่นติดจมูกแน่นอน
บริการ : Free Wifi
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
ที่อยู่ : 56 อาคารญาดา
ชั้น 1 ติดธนาคารทหารไทย(สีลม) แขวงสุรวงศ์ เขตบางรัก
กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 0 2652 4462
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก Montra Cafe' & Gallery
20.
HUBBA
และร้านสุดท้ายที่เราจะแนะนำ คือ HUBBA Thailand ซึ่งไม่ใช่ร้านกาแฟแต่เป็นสถานที่ทำงานรูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า Coworking
space เป็นการแชร์พื้นที่การทำงานร่วมกัน
เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำธุรกิจของตนเอง หรือ Freelance ที่ต้องการทำงานในสถานที่ที่พร้อมและบรรยากาศที่เอื้อต่อการทำงาน
พบปะผู้คนและแรงกระตุ้นใหม่ ๆ มีค่าบริการทั้งแบบรายวัน 260
บาท/คน และรายเดือน 4,650 บาท/คน
โดยฮับบาจะให้บริการในเรื่องของโต๊ะเก้าอี้ที่นั่งสบาย สัญญาณไฮสปีดอินเทอร์เน็ต
อุปกรณ์สำนักงาน (เครื่องถ่ายเอกสาร แฟกซ์ สแกน พริ้นท์เอกสาร) น้ำ ชา กาแฟ
และขนมทานเล่น ที่สามารถบริการตัวเองได้ในบริเวณ Pantry ห้องประชุม
และกิจกรรม เช่น Community event กิจกรรมภายในที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ของสมาชิกฮับบา,
Meetup งานพบปะและแลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ ๆ ของคนในหลาย ๆ วงการ หลาย
ๆ หัวข้อ และ workshop ที่สลับสับเปลี่ยนกันไปในหัวข้อที่หลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทคโนโลยี การตลาด การพัฒนาตนเอง
การเสริมสร้างสร้างความรู้และทักษะใหม่ ๆ
บริการ : Hi-speed Internet และสามารถเสียบปลั๊กไฟได้ทุกจุดของร้าน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน เวลา 09.00-22.00 น.
ที่อยู่ : ซอยเอกมัย 4 ถนนสุขุมวิท 63 แขวงพระโขนงเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ
โทรศัพท์ : 0 2714 3388
เว็บไซต์ : hubbathailand.com และ เฟซบุ๊ก hubbathailand
เป็นอย่างไรบ้างกับร้านกาแฟสุดเจ๋งที่เรานำมาฝากกัน
น่าจะเป็นตัวเลือกที่ลงตัวสุด ๆ
สำหรับเพื่อนที่กำลังมาหาพื้นที่สำหรับนั่งจิบกาแฟในวันว่างไปกับการอ่านหนังสือได้เป็นอย่างดี
ที่มา : http://travel.kapook.com/view85783.html